ดูเหมือนว่าปัจจุบันนี้ หลายบ้านมักจะแต่งสวนแต่งบ้านด้วยซุ้มองุ่น แต่หากจะไปเดินหาซื้อต้นองุ่นพันธุ์ดีมาปลูก ก็คงจะไม่เหมาะ
เพราะทั้งราคาแพง และก็ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ องุ่นควรจะอยู่ในพื้นที่ใกล้เขาที่มีอากาศไม่เหมือนกับหน้าบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่า สมัยนี้ไปบ้านไหนแล้วไม่เห็นซุ้มต้นองุ่นให้ดู อาจเชยไปเสียด้วยซ้ำ วันนี้ก็เลยจะมาสอนวิธีปลูกองุ่น เอาตั้งแต่เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ดไปจนถึงเป็นต้นให้เห็นลูกองุ่นกันเลยทีเดียว ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่มาเรื่อง วิธีเพาะเมล็ดองุ่น ของ kasetorganic.com กันก่อน แล้วมาเริ่มกันเลย
ก่อนอื่นต้องเตรียมอุปกรณ์ในการเพาะเมล็ดองุ่นให้พร้อมก่อน
อุปกรณ์สำหรับการเพาะเมล็ดองุ่นเอง
- เมล็ดองุ่น สายพันธุ์ที่ชอบ (หากไม่รู้ว่าสายพันธุ์อะไร ก็ดูได้จากบทความต้นฉบับจากลิ้งในย่อหน้าแรก)
- กระดาษชำระธรรมดา ที่ไม่มีสารเคมีหรือน้ำหอมผสม
- กล่องมีฝาปิดได้ เพื่อทำเป็นกล่องเพาะเมล็ด
- ดินร่วนปนทรายที่ตากแห้งแล้ว
ส่วนอุปกรณ์และวัสดุที่เหลือ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ยคอก ไว้ค่อยนำมาผสมเป็นดินเพาะกล้า ไม่ควรผสมลงในกล่องเพาะเมล็ด เพราะจะทำให้เมล็ดขึ้นราได้ ส่วนกระถางเพาะ เสาปูน หรือเสาไม้ จะเตรียมไว้ก่อนหรือหลังจากเมล็ดองุ่นงอกแล้วก็ได้ แต่อย่าลืมว่าการเพาะเมล็ดองุ่น ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ถึงจะงอก บางคนอาจท้อไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหากว่าจะทำต่อ ระหว่างนี้ก็มาเรียนกันเลย
วิธีการเพาะเมล็ดองุ่น แบบละเอียด
วิธีนี้ได้ผลแน่นอน ทดลองมาแล้ว เมล็ดงอก 8 ใน 10 ครั้ง (2 ครั้งที่เหลือเมล็ดขึ้นราและเน่า) เริ่มแรกควรทำการคัดแยกเมล็ดองุ่นที่สมบูรณ์ก่อน คือให้นำเมล็ดองุ่นไปแช่น้ำ ถ้าเมล็ดจมน้ำแสดงว่าสามารถนำไปเพาะให้งอกได้ เลือกเอาเมล็ดดีๆ มาทำการเพาะประมาณ 30-40 เมล็ด หรือขึ้นอยู่กับกล่องเพาะที่เตรียมไว้ ถ้ากล่องใหญ่ก็สามารถบรรจุได้เยอะหน่อย ด้วยการคำนวณระยะห่างของเมล็ดไว้ ประมาณ 2-3 ซม. เพื่อง่ายต่อการนำไปลงถุงเพาะกล้า เมื่อคัดเลือกเมล็ดได้แล้ว ให้นำเมล็ดองุ่นที่ได้ไปทำความสะอาด โดยการแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง
นำดินร่วนปนทรายที่เตรียมไว้ มาใส่รองก้นกล่อง หนาพอที่จะให้รากองุ่นแทงลงไปได้ แต่ไม่ต้องรองหนามาก แล้วจัดการวางเมล็ดองุ่นลงไป อย่าให้ชิดกันมาก ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เตรียมนำกระดาษชำระที่เตรียมไว้ (ไม่มีสารเคมีผสม เพราะสารเคมีจะทำให้เมล็ดองุ่นเน่า และไม่งอกได้) ปิดคลุมเมล็ดให้ทั่ว แล้วฉีดพรมน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าแฉะมาก ใช้ทราย หรือมอสทับด้านบนบางๆ อีกชั้น ปิดกล่องให้สนิท จากนั้นก็นำไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่ปกติ ระยะเวลางอก ประมาณ 2–3 เดือน จะเห็นรากแทงออกมาจากเมล็ด
เมื่อมีรางแทงออกมาจากเมล็ดองุ่นที่เพาะแล้ว ให้แช่ทิ้งไว้อีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นค่อยๆ นำเมล็ดองุ่นในกล่องมาลงปลูกในกระถางเพาะกล้า ระวังอย่าให้รากหัก โดยวางในกระถางเพาะกล้าให้ห่างกันอย่างน้อย 3-4 เซนติเมตร สำหรับดินในกระถางเพาะกล้าก็เป็นดินร่วนปนทรายที่ผสมปุ่ยคอกมาแล้วตามปกติ นำกล้าลงกระถางเพาะ
แล้ววางกระถางไว้ในที่ร่มไม่มีแดดส่องถึง แต่ให้มีแสงสว่างเพียงพอ รอจนกระทั่งต้นอ่อนงอกขึ้นมา ใช้เวลาประมาณ 6-7 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเมล็ดพันธุ์และอากาศ ในระหว่างนี้ต้องคอยดูแล อย่าปล่อยให้ดินแห้งหรือชุ่มน้ำเกินไป หมั่นรดน้ำโดยการฉีดน้ำจากขวดสเปรย์แทนการเทน้ำรดดินโดยตรง 1-2 วันครั้ง เมื่อต้นอ่อนมีความสูง 8 เซนติเมตร ให้ย้ายลงปลูกกระถางใหญ่ วางไว้ในที่ร่มเหมือนเดิม จนกระทั่งลำต้นมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรหรือมีครบ 5-6 ใบ ถือว่าประสบความสำเร็จใน การเพาะเมล็ดองุ่น ให้งอก แล้วแน่นอน
ดูวิธีเพาะเมล็ดแบบไม่ใช้ดิน ที่ https://www.kasetorganic.com/การเพาะเมล็ด-ไม่ใช้ดิน.html เพื่อขยายพันธุ์เมล็ดพืชอื่นๆ อีกเพิ่มเติม
เทคนิคการปลูกองุ่นให้โต
เมื่อได้กล้าองุ่นที่ได้จากความสำเร็จในการใช้วิธีเพาะเมล็ดองุ่นสำเร็จแล้ว ก็เริ่มนำกล้านั้นมาปลูกลงดิน โดยการผสมดินร่วนปนทรายกับปุ๋ยหมักเพื่อนำไปทำแปลงปลูก แปลงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดส่อง เพราะต้นองุ่นต้องการแสงแดดวันละ 7-8 ชั่วโมงในการเจริญเติบโต ก่อนนำต้นกล้าองุ่นมาปลูก ให้ปักเสาไม้ เสาปูน หรือไม้ไผ่เอาไว้ก่อนเพื่อยึดต้นองุ่นให้เลื้อย แล้วค่อยนำต้นองุ่นลงปลูกในที่ที่เตรียมไว้ เว้นระยะห่างระหว่างต้น 2.5 เมตร ใช้เชือกผูกต้นองุ่นติดกับเสา ขึงเชือกจากปลายเสาไปยังค้างใหญ่ให้เครือองุ่นให้ไต่ขึ้นร้าน
เมื่อต้นองุ่นแข็งแรง กิ่งมีสีน้ำตาล ใบแก่แล้ว ควรตัดกิ่งออกเพื่อให้กิ่งที่ออกมาใหม่ติดพวงดอก ก่อนการตัดกิ่งนั้นต้องงดให้น้ำอย่างน้อย 7 วันและคอยตรวจเช็กพร้อมกำจัดเหล่าแมลงศัตรูพืชด้วย
ที่มา การเพาะเมล็ดองุ่น : https://www.kasetorganic.com/plant-propagation/grapeseed/
เรียบเรียง : https://kaset.vwander.com